
ด้วยสถานการณ์โรคโควิด19ระบาด ทำให้หลายพื้นที่เป็นพื้นที่สีแดงและหลาย ๆ องค์กรให้พนักงานทำงานกันที่บ้าน และการทำงานที่บ้านให้มีประสิทธิภาพได้ต้องมีอุปกรณ์การทำงานที่ครบครัน เพื่อการทำงานที่มีคุณภาพไม่ต่างกับทำงานที่บริษัท สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวทำงานที่บ้าน วันนี้ itsaradee.com มาดูกันว่ามี 9 อุปกรณ์ไอที work from home ต้องมี อะไรบ้าง ที่ควรซื้อมาเตรียมพร้อมใช้งาน
9 อุปกรณ์ไอที work from home ต้องมี
1.โน้ตบุ๊ก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ไอทีชิ้นแรกสำหรับการ Work from home ที่ขาดไม่ได้ เป็นอุปกรณ์ไอทีที่เรียกได้ว่า สำคัญ และตอบโจทย์การทำงานในสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี กับฟังก์ชันในการทำงานที่มีหลากหลาย ทำให้มีความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน ดังนั้น โน้ตบุ๊ก จึงช่วยให้คุณพร้อมกับการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
2.เม้าส์ไร้สาย

ที่สำคัญอีกอย่างนั้นก็คือเมาส์ไร้สายเม้าไร้สายข้อดีเลยคือไม่เกะกะลากอยู่ตรงไหนของมุมบ้านก็ได้และอีกอย่างคือไปข้างนอกไปได้อย่างสะดวกสบาย ต้องหาขนาดที่เหมาะกับอุ้งมือไม่ใหญ่หรือไม่เล็กเกินไป เพราะจะทำให้เราไม่เมื่อยมือเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
3.เครื่องปริ้น

เครื่องปริ้นยเป็นอุปกรณ์ไอทีที่ต้องมีเหมือนกัน บางตำแหน่งหรือหน้าที่อาจจะต้องมีการเซ็นรับทราบเอกสารตอบกลับ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะมีปริ้นเตอร์และหมึกพิมพ์ติดบ้านเอาไว้ ซึ่งปัจจุบันปริ้นเตอร์และหมึกพิมพ์มีให้เลือกใช้หลายรุ่นตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักหมื่น แต่ละแบรนด์ละรุ่นก็ให้คุณภาพงานที่แตกต่างกันออกไป แต่ไหน ๆ หากจะซื้อมาทำงานที่บ้านแล้วก็ขอแนะนำให้ซื้อปริ้นเตอร์และหมึกพิมพ์ในรุ่นที่สามารถทั้งปริ้นและสแกนภาพได้ด้วย เพราะจะทำให้ครอบคลุมการทำงานได้ทุกอย่าง ทำงานที่บ้านได้สะดวกไม่ต้องลำบากลำบนไปหาที่สแกนข้างนอก
4. ราวเตอร์Wifi

สัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือ Wifi สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการทำงานแบบ Work From Home อินเตอร์เน็ตถือว่าเป็นตัวกลางสำคัญในการรับสารส่งสารในการทำงานเลย เพราะถ้าไม่มีอิเตอร์เน็ตเราจะติดต่อกับฝ่ายอื่น ๆ หรือค้นหาข้อมูลได้อย่างไรเพราะฉะนั้นการติดตั้ง Wifiจึงสำคัญมากเช่นกัน เพิ่มค่าใช้จ่ายนิดหน่อยเพื่องานที่ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ
5.ฮาร์ดดิสก์

ฮาร์ดดิสก์เป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับใครที่ต้องทำงานเก็บข้อมูลดยอะ ๆ เพราะถ้าหากต้องเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียวข้อมูลจะกินพื้นที่ในเครื่องเยอะมาก อาจทำให้เครื่องโหลดช้า การเลือกใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น Flash Drive หรือ External Hard Disk ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการทำงาน หากเป็นงานเอกสารที่ต้องการพื้นที่ความจุไม่มากอาจเลือกใช้ Flash Drive ในการเก็บข้อมูลได้ ซึ่งสมัยนี้ราคาถูกมาก แต่หากต้องเก็บข้อมูลเป็นจำนวนหลายกิกะไบต์ อาจเลือกใช้ External Hard Disk เพราะมีความจุตั้งแต่ 1 TB ขึ้นไป การเก็บข้อมูลจำนวนมาก ราคาไม่แพงมากหลักพันนิด ๆ เท่านั้นเอง
6. ปลั๊กพ่วง

ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์ Work from home อีกชิ้นที่ไม่มีไม่ได้ จะช่วยให้ท่านไม่ต้องขยับหรือเคลื่อนย้ายตัวเองไปนั่งทำงานใกล้ปลั๊กไฟบ้าน สร้างความยืดหยุ่นให้พื้นที่ทำงานได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่ปลั๊กไฟบ้านมีไม่มากพอ แต่มีอุปกรณ์หลายชนิดที่ต้องการใช้ ปลั๊กพ่วงก็ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน
7. กล้องเว็บแคม

กล้องเว็บแคม เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยให้คุณประชุมงานทางไกลจากที่บ้านได้แบบไม่สะดุด เหมาะสำหรับใช้งานคู่กับคอมพิวเตอร์ PC หรือสำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊ก กล้องเว็บแคมที่มีคุณภาพก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การประชุมงานทางไกลของคุณได้มากกว่าการใช้กล้องเสริมของแล็ปท็อป
8. Headset หูฟังพร้อมไมค์

หูฟังพร้อมไมค์ เป็นอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้การประชุมผ่าน VDO Conference มีความราบรื่น การพูดคุยขณะประชุม ได้ยินเสียงชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกซื้อทั้งแบบมีสาย และแบบไร้สาย
9.คีย์บอร์ด

อุปกรณ์เสริมอีกหนึ่งอย่างคือ คีย์บอร์ด หลายคนคงสงสัยว่าในโน้ตบุ๊กนั้น มี คีย์บอร์ด ที่ติดมากับในตัวอยู่แล้ว แต่หากคุณใช้ คีย์บอร์ด ที่เป็นมาตรฐานแยกส่วนออกมานั้น จะช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็วในการพิมพ์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง อย่างไรนั้น เราควรเลือกใช้ คีย์บอร์ดแบบไร้สาย เพื่อให้คุณสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และหากคุณทำงานเกี่ยวกับตัวเลขแล้วล่ะก็! คุณควรจะเลือกใช้ คีย์บอร์ด ที่มีตัวเลขแยกออกมา เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงาน และความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
อ่านจบเตรียมตัวสำรวจอุปกรณ์ในบ้านของตัวเองได้เลย ว่าขาดเหลืออุปกรณ์อะไรบ้างสำหรับ อุปกรณ์ไอที work from home ต้องมี ถ้าใครยังไม่มีต้องรีบเลือกซื้อกันได้เลย เพื่อความสะดวกสบายในการทำงานที่บ้านของท่าน
แนะนำบทความน่าสนใจ
เดี๋ยวนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การเลือกซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ กำลังเป็นที่นิยมในไทย เพราะบางอย่างก็ไม่มีในบ้านเรา แต่การที่จะซื้อสินค้าแบบนี้สักชิ้น ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าเสียภาษีนำเข้า ค่าหิ้วอีก ค่าร้อยพันแปดเต็มไปหมดเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ในเมืองไทยจะมีร้านที่นำเข้าสินค้าเฉพาะประเทศไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือราคาสินค้า ส่วนจะมีที่ไหนบ้างตามไปพบกับ 5 ร้านสินค้าน่าช็อปในไทย กันเลยครับ
